การทำงาน ของ บุญเลิศ เลิศปรีชา

พันตำรวจโท บุญเลิศ เคยรับราชการตำรวจ เป็นหัวหน้าตำรวจสันติบาลจังหวัดสงขลา[3] ซึ่งมีเหตุการณ์ที่ทำให้เป็นที่รู้จักคือ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2497 หะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ พร้อมคณะ ออกเดินทางมาพบ พ.ต.ท. บุญเลิศ ที่หน่วยสันติบาลสงขลาแล้วหายสาบสูญไป[4]

พันตำรวจโท บุญเลิศ เริ่มเข้าสู่การทำงานการเมือง โดยสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2512 ในพื้นที่จังหวัดนครนายก สังกัดพรรคสหประชาไทย และได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยแรก ต่อมาได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2518 ในสังกัดพรรคธรรมสังคม

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2519 และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2526 ในสังกัดพรรคกิจสังคม

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2531 ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์

ในรัฐบาลของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย[5]

โรคร้อยเอ็ด

หลังจากการเลือกตั้ง พ.ศ. 2522 มีการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดร้อยเอ็ด เขตหนึ่ง เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2524 ครั้งนี้มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดระหว่างพันตำรวจโท บุญเลิศ จากพรรคกิจสังคม กับพลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติประชาธิปไตย จึงต้องใช้การซื้อเสียงเชิงรุก เพื่อให้ได้ ส.ส. จึงใช้การแจกจ่ายเงินสดแทนข้าวของ ทำกันอย่างเอิกเกริกแต่ก็ไม่มีการลงโทษตามกฎหมาย จึงเป็นต้นกำเนิดของการซื้อเสียงอย่างแพร่หลายในภาคอีสานในเวลาต่อมา[6][7]